HONDA CIVIC

ALL ABOUT : HONDA CIVIC

 

Honda Civic ประวัติความเป็นมาของ Honda Civic Gen.5

 

รีวิวประกอบของรถ Honda Civic

 

          Honda Civic เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้น และพัฒนาโดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด สำหรับฮอนด้า ซีวิค ได้มีการเปิดตัวขึ้นในครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1973 ที่เป็นรถยนต์แบบ 2 ประตูขนาดเล็ก และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันที่มีรูปร่างใหญ่ และหรูหรา นับได้ว่าเป็นรถที่จัดอยู่ในคุณภาพดีอีกรุ่นเลยก็ว่าได้ใน Honda Civic นี้ได้มีการพัฒนามาจนถึงปัจจุบันถึง 9 โฉม (9 Generation) ด้วยกันเรามาเริ่มที่โฉมล่าสุดกันก่อนเลยแล้วกัน

 

         

 ทดสอบความปลอดภัยบอดี้ ฮอนด้า ซีวิค

 

Honda Civic FB Sedan

 

Honda Civic FB Coupe

 

Honda Civic FB Hybrid 
 
 
โฉมที่ 9 (Generation9) ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2011-ปัจจุบัน

          มาถึงเจเนอร์เรชั่นปัจจุบันของเจ้ารถ Honda Civic กันแล้ว สำหรับในเจเนอร์ชั่นนี้มีการเปลี่ยนทางด้านของรูปลักษณ์ภายนอกเพียงเล็กน้อย โดยเท่าที่เห็นนั้นจะมีเพียงการเปลี่ยนไฟหน้า และไฟท้ายใหม่และเพิ่มเหลี่ยมมุมตามจุดต่างๆ เพียงเท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์นั้นก็มีถึง 2 ตัวให้ได้เลือกกันเหมือนกับรุ่นก่อนคือจะมีทั้งเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรและ 2.0 ลิตร 

           Honda Civic โฉมที่ 9 ในรุ่นปกติ ผลิตออกมาโดยแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยได้แก่ Civic HF , Civic Sedan, Civic Coupe และ Civic GX Natural Gas หรือ CNG จากโรงงาน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร i-VTEC 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมด้วยเทคโนโลยี Eco Assist (Ecological Drive Assist System) ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่สามารถประเมินลักษณะการขับได้ เพื่อช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยรุ่น HF จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ไฮเวย์ มาตรฐาน EPA) ประมาณ 17 กม./ลิตร ส่วนรุ่นซีดาน และคูเป้ ประมาณ 16 กม./ลิตร

            Honda Civic Hybrid ในรุ่นนี้กับที่สุดแห่งเทคโนโลยี โดยได้รับการพิสูจน์มาแล้วจาก Honda CR-Z เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร i-VTEC เก็บพลังด้วยชุด แบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ทั้งระบบผลิตกำลังรวมได้ 110 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 19.5 กม./ลิตร

            Honda Civic Si มีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ มากับเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น 4 สูบ 2.4 ลิตร 200 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะตัวใหม่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแบบช่างมัน…ไม่ซีเรียส ประมาณ 13.4 กม./ลิตร แต่ก็ถือว่าดีกว่ารุ่นปัจจุบันราว 2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน EPA)

 

--------------------------------------------------------

 

 

Honda Civic FD Sedan

 

Honda Civic FD Type R
 
 
โฉมที่ 8 (Generation8) ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2005-2011

          คราวนี้เป็นคิวของเจ้า ฮอนด้า ซีวิค เจเนอร์เรชั่นที่ 8 สำหรับเจ้าตัวนี้มันได้สร้างขึ้นมาเมื่อปี 2006 โดยเจ้ารุ่นนี้มันถูกออกแบบมาด้วยกัน 2 แบบก็คือรุ่นซีดาน และแฮทช์แบค 5 ประตู ในการออกแบบนั้นจะเน้นไปที่การออกแบบให้มีความทันสมัยโฉบเฉี่ยวแต่จะต่างกับรุ่นก่อนๆ ตรงที่มันมีขนาดใหญ่มากว่าเดิม เพื่อประโยชน์ในการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนในเรื่องของขุมพลังนั้นมีออกมาให้ได้เลือกใช้กันอยู่หลายตัวด้วยกันทั้งขนาด 1.8 ลิตร และขนาด 2.0 ลิตร

           Honda Civic โฉมที่ 8 เริ่มผลิตตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 2006 จนถึงรุ่นปีล่าสุดของ Honda Civic ที่ Honda ยังผลิตอยู่ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นโฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, แฮทช์แบค 3 ประตู และซีดาน 4 ประตู โดยในประเทศไทยนั้นทางฮอนด้าจะจำหน่ายเฉพาะแบบซีดาน 4 ประตูเท่านั้น

           โดยโฉมที่ 8 นี้จะมีระบบเกียร์ให้เลือก 3 แบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเครื่องยนต์ 3 ขนาด คือ 1.5 ลิตร, 1.7 ลิตร และ 2.0 ลิตร แต่ในประเทศไทยมีการจำหน่ายเฉพาะรุ่น 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร

 

เครื่องยนต์ R18 ใน Honda Civic FD

 

          Honda Civic รุ่นปี 2008 ได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ชนิดใหม่ ให้สามารถใช้พลังงานทดแทนพิเศษอย่าง แก๊สโซฮอล์ E20 ได้ สำหรับแก๊สโซฮอล์ใหม่นี้ จะสามารถลดมลพิษในอากาศได้มากกว่าแก๊สโซฮอล์ทั่วไป ช่วยให้รักษาสิ่งแวดล้อม

          Honda Civic โฉมที่ 8 นี้ ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Thailand Car of the Year 2009) ในประเภทรถยนต์นั่ง ในรุ่นไม่เกิน 2,000 ซีซี. (Best Sedan under 2,000 cc.)

 

-------------------------------------------------

 

 

Honda Civic ES โฉมแรก 

 

Honda Civic ES โฉมปัจจุบัน
 
Honda Civic ES Coupe

 

โฉมที่ 7 (Generation7) ผลิตขึ้นในปีค.ศ. 2000-2005

           Honda Civic ในเจเนอเรชั่นที่ 7 ที่ทำการเปิดตัวในครั้งแรกเมื่อปี 2000 ที่ทำการเปิดตัวออกมาพร้อมกันถึง 3 ตัวถังด้วยกันคือ ซีดาน, แฮทช์แบค 3 ประตู และคูเป้ โดยในเมืองไทยนั้นได้นำเข้ามาจำหน่ายเพียงแค่รุ่นเดียวก็คือรุ่น 4 ประตู สำหรับเครื่องยนต์นั้นจะใช้เป็นรหัส D17A ที่เป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ที่มีความจุ 1,700 ซีซี. 130 แรงม้า หรือถ้าอยากสนุกสไตล์สปอร์ตก็ต้องเครื่องยนต์สุดฉลาดอย่าง I-VTEC ขนาด 2,000 ซีซี. 4 สูบ 16 วาล์ว 155 แรงม้า ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

           Honda civic โฉมที่ 7 นี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 5 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2005 มีตัวถัง 4 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, แฮทช์แบค 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู และ แฮทช์แบค 5 ประตู

           สำหรับโฉมที่ 7 นี้ ถือได้ว่าเป็นโฉมแรก ที่ฮอนด้าได้ทำระบบไฮบริด(Hybrid) มาติดกับรถซีวิค เป็นรุ่นพิเศษ แต่ไม่ได้เข้ามาขายในประเทศไทย

 

---------------------------------------------------

 

 

Honda Civic EK Sedan 
 
Honda Civic EK Hatback
 
Honda Civic EK Coupe
 

โฉมที่6 (Generation6) ผลิตขึ้นในปีค.ศ.1996-2000

          มาต่อกันที่ Honda Civic เจเนอร์เรชั่นที่ 6 ที่มีการเปิดตัวออกมาพร้อมกันถึง 3 รุ่นด้วยกันนั่นคือแฮทช์แบค 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู และแบบคูเป้ 2 ประตู สำหรับเจ้ารุ่นนี้นั้นโครงสร้างพื้นฐานหลัก จะใช้ร่วมกันกับฮอนด้า ซีอาร์-วี รถประเภทเอสยูวี(SUV) ที่อยู่ในค่ายฮอนด้าเช่นเดียวกัน แต่เมื่อมาถึงในปี 1998 ทางฮอนด้า ได้เอาใจผู้ที่รักในความเร็วด้วยการออกแบบรุ่นพิเศษออกมานั่นคือเจ้า Civic Type R ที่ได้รับการตกแต่งมาเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในที่โดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยเบาะสีแดงจาก RECARO เบาะซิ่งที่หลายคนชื่นชอบ ส่วนในเรื่องของเครื่องยนต์นั้นเลือกใช้เป็นรหัส B16B ที่มีแรงม้าสูงถึง 185 แรงม้ากันเลยทีเดียว

          Honda Civic โฉมที่ 6 นี้ ได้มีการผลิตมาทั้งสิ้น 5 รุ่นด้วยกัน ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1996 - ค.ศ. 2000 โฉมนี้ มีตัวถัง 5 แบบ คือแบบ Coupe, Hatchback , Sedan และ Station Wagon มีขนาดเครื่องยนต์ขนาดเดียว คือ 1.6 ลิตร

           ฮอนด้า ซีวิค โฉมที่ 6 มาพร้อมกับระบบเกียร์ 2 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โฉมนี้พ่อค้ารถในประเทศไทยนิยมเรียกว่า ซีวิค ตาโต ซึ่งโฉมนี้ เครื่องยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์ค่อยๆ หายไป และในที่สุด ฮอนด้าก็เลิกผลิตรถยนต์นั่งแบบคาร์บูเรเตอร์(Caburator) อย่างสมบูรณ์ และรถยนต์นั่งฮอนด้าทุกคันที่ผลิตเป็นรุ่นปี ค.ศ. 1996 เป็นต้นไป เติมแก๊สโซฮอล์ได้ทุกคัน

 

-------------------------------------------------------

 

 

Honda Civic EG Sedan
 
Honda Civic EG 3Dr.

 

Honda Civic EG Coupe
 

โฉมที่ 5 (Generation5) ผลิตขึ้นในปีค.ศ.1992-1995

          ต่อมาในโมเดลในปี 1991 ถือได้ว่าเป็น Honda Civic อีกรุ่นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในตระกูล ฮอนด้า ซีวิค ไม่ว่าจะเป็นในรุ่นซีดาน หรือแฮทช์แบค ทั้งนี้ก็เป็นเพราะรูปโฉมการออกแบบที่เน้นความร่วมสมัย โดยเฉพาะในรุ่นแฮทช์แบค 3 ประตู ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งบนถนน และในสนามแข่ง แถมยังมีเครื่องยนต์ให้เลือกกันมากมายตั้งแต่ระดับ 90 แรงม้าจนถึง 170 แรงม้า ในเครื่องยนต์ VTEC รหัส B16A และอีก 2 ปีต่อมาทาง ฮอนด้า เปิดตัวรูปแบบตัวถังคูเป้ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ VTEC 170 แรงม้า ซึ่งเจ้ารุ่นนี้จะถูกผลิตขึ้นมาเพื่อจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น และอเมริกาเพียงเท่านั้น

          Honda Civic โฉมที่ 5 นี้ ได้มีการผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นด้วยกัน โดยเริ่มผลิตตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ.1992 - ค.ศ.1995 มีตัวถัง 3 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, แฮทช์แบค 3 ประตู และแบบซีดาน 4 ประตู  ในโฉมที่ 5 นี้มาพร้อมกับระบบเกียร์ 2 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 1.5 ลิตร กับ 1.6 ลิตร พ่อค้ารถในไทย ซึ่งในรุ่นนี้นิยมเรียกโฉมนี้ว่า ซีวิค เตารีด นั่นเอง

           Generation 6 นี้การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของซีวิคเริ่มเปลี่ยนไป เพราะ 4 โฉมแรก ภายนอกจะมีลักษณะตรง แล้วหักเป็นมุมๆ ทำให้มีลักษณะเป็นรูปทรงเหลี่ยมๆ แต่โฉมนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นความโค้งมน และโฉมจากนี้ จะเพิ่มความโค้งมนมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงโฉมล่าสุด ที่มีความโค้งมนมาก

           สำหรับในประเทศไทยของเรา ช่วงกลางๆ ของโฉมนี้ Honda Civic เริ่มเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบที่เป็นหัวฉีด แทนระบบคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งสังเกตได้จากอักษรทริมที่อยู่ท้ายรถ จะมีตัวไอเล็กภาษาอังกฤษตัว (i) ต่อท้าย (เป็นทริมแบบ LXi, EXi, ฯลฯ) แต่ถ้าไม่มี i ต่อท้าย (LX, EX, ฯลฯ) แปลว่า Honda Civic คันนั้นยังใช้เครื่องคาร์บูเรเตอร์อยู่ ซึ่งรถที่ใช้ระบบหัวฉีด จะใช้เชื้อเพลิงที่คุ้มค่ากว่า และนอกจากนี้ เครื่องหัวฉีด สามารถเติมน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ (แก๊สโซฮอล์ E10) ได้ ซึ่งยิ่งช่วยผู้ใช้ประหยัดมากขึ้นไปอีก ในขณะที่เครื่องแบบคาร์บูเรเตอร์ ไม่เหมาะสมที่จะใช้แก๊สโซฮอล์

 

--------------------------------------------------------

 

 

Honda Civic EF Sedan

 

Honda Civic EF Hatback

 

Honda Civic EF shutle
 

โฉมที่ 4 (Generation4) ผลิตขึ้นในปีค.ศ.1988-1991

          สำหรับในเจเนอร์เรชั่นนี้ Honda Civic ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากเดิมหลายจุด ตั้งแต่ในส่วนของเครื่องยนต์ที่เป็นแบบ 16 วาล์ว ซึ่งมาพร้อมกับระบบที่กลายมาเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ ฮอนด้านั่นคือระบบ VTEC หรือระบบวาล์วแปรผัน โดยเจ้าระบบนี้มันจะทำให้เครื่องยนต์นั้นมีกำลังสูงขึ้นทั้งในรอบต่ำ และรอบสูง แถมยังมีระบบช่วงล่างดับเบิลวิชโบน(Double Wishbone) ส่วนในเรื่องของขุมพลังนั้นเป็นแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว VTEC ที่สามารถสร้างแรงม้าจากเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ได้สูงถึง 130 แรงม้า และเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC ในรหัส D15B ขนาด 1.5 ลิตร ได้สูงถึง 105 แรงม้า สำหรับรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้นจะเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC จ่ายน้ำมันด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งแรงม้าสูงสุด 90 แรงม้า

 

ระบบช่วงล่างแบบ Double Wishbone ถูกนำเข้ามาใช้ในโฉมนี้เป็นโฉมแรก

 

           โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1988 - ค.ศ. 1991 โฉมนี้ มีการผลิตตัวถัง 4 รูปแบบ คือ แฮทช์แบค 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, คูเป้ 3 ประตู และ สเตชั่น วาร์กอน 5 ประตู มาพร้อมกับระบบเกียร์ให้เลือกถึง 4 ระบบด้วยกัน คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เครื่องยนต์ 4 ขนาด คือ 1.3, 1.4, 1.5 และ 1.6 ลิตร

           โฉมนี้ ในไทยมักจะนิยมเรียกว่า โฉมไฟท้าย 2 ชั้น เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์ธรรมดา 4 สปีด นับได้ว่าเป็นโฉมที่มีความหลากหลายมากทีเดียว และเครื่องยนต์ที่ทนทาน ปัจจุบันนี้ ก็ยังสามารถเห็นรถซีวิคโฉมไฟท้าย 2 ชั้นนี้ บนท้องถนนได้ แม้จะเลิกผลิตไปถึง 17 ปีแล้ว

 

------------------------------------------------------------

 

 

Honda Civic Hatback

 

Honda Civic Sedan

 

Honda Civic Wagon
 

โฉมที่ 3 (Generation3) ผลิตขึ้นในปีค.ศ.1984-1987

          คราวนี้มาถึงคิวของ Honda Civic ในเจเนอร์เรชั่นที่ 3 กันบ้าง โดยในคราวนี้ทาง ฮอนด้า ได้มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นที่เน้นความโฉบเฉี่ยว และความหรูหราที่ได้มาจากรถยุโรป สำหรับเจเนอร์เรชั่นนี้นอกจากจะมีรุ่น แฮทช์แบค 3 ประตู, 4 ประตูแล้ว ฮอนด้ายังเพิ่มรุ่นใหม่อีกคือ ซีวิค ซีอาร์-เอ็กซ์(Civic CR-X) รถสปอร์ตคูเป้ ที่มาพร้อมกับพละกำลังรูปแบบ 4สูบ 1,500 ซีซี. 100 แรงม้า ที่สำคัญยังมีการนำเอาระบบกรองไอเสีย หรือ Catalytic Converters มาใช้เป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี. อีกด้วย

 

---------------------------------------------------------

 

Honda Civic Hatback 3Dr.

 

Honda Civic Hatback 5Dr.

 

Honda Civic Stationwagon
 

โฉมที่ 2 (Generation2) ผลิตขึ้นในปีค.ศ.1980-1983

          มาถึงในปี ค.ศ.1979 ทางฮอนด้าได้ทำการเปิดตัว Honda Civic ในเจเนอร์เรชั่นที่ 2 ออกมาโดยใช้บอดี้เป็นแบบ 3 ประตูและแฮทช์แบ็ค 5 ประตู แถมยังมีการปรับตัวถังให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะเพิ่มประพื้นที่ในการใช้งานให้ได้มากกว่าเดิมส่วนขุมพลังนั้นมีให้เลือกกันถึง 2 ขนาดด้วยกันคือ 4 สูบ OHC 1300 ซีซี. 68 แรงม้า และเครื่องยนต์ 4 สูบ OHC 1500 ซีซี. 80 แรงม้า ในขณะที่ระบบส่งกำลังนั้นจากเดิมเป็นเกียร์ธรรมดา 4 สปีด ได้เปลื่ยนมาเป็น 5 สปีด เมื่อมาถึงระยะหลังๆนั้นทางฮอนด้าก็ได้ทำการผลิตบอดี้แบบ 4 ประตูออกมาเพื่อที่จะขยายตลาดออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกโดยเลือกที่จะส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก

 

---------------------------------------------

 

 

Honda Civic Hatback 3Dr.
 

โฉมที่ 1 (Generation1) ผลิตขึ้นในปีค.ศ.1973-1979

          สำหรับเจ้า Honda Civic เจเนอเรชั่นแรกนี้มันได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ค.ศ 1972 ด้วยตัวถังแบบ 2 ประตู Civic ที่มาพร้อมกับขุมพลังแบบ 4 สูบ SOHC ขนาด 1,200 ซีซี. ให้กำลังอยู่ที่ 54 แรงม้า และที่สำคัญเจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยี CVCC หรือ Compound Vortex Combustion ที่ช่วยลดปริมาณของไอเสียที่ออกมาอีกด้วย เพราะเหตุนี้เองจึงทำให้มันได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและในแถบยุโรป 

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับประวัติความเป็นมาของรถซิตี้ คาร์(City Car) ยอดนิยมอย่าง ฮอนด้า ซีวิค(Honda Civic) ที่มีความเป็นมายาวนาน หวังว่าคงได้รับความรู้กันบ้าง ไม่มาก ก็น้อยนะครับ สุดท้ายนี้ถ้าหากใครถ้าอยากที่จะรับชมสาระความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์แล้วล่ะก็ สามารถติดตามได้ในเว็ปไซต์ Boxzaracing.com ของเราได้เลยนะครับ

เขียนโดย: ART 4G
เมื่อ: 15 กันยายน 2557 - 16:25

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

เครื่องยนต์ยอดนิยมล่าสุด