นิสสัน สกายไลน์ (Nissan Skyline) เป็นรถยนต์ขนาดเล็กของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (Nissan Motor CO.LTD) โดยเริ่มมีการผลิตครั้งแรกในปีค.ศ. 1957 ที่ได้ผลิตขึ้นภายใต้บริษัท พรินซ์มอเตอร์ จำกัด (Prince Motor CO.LTD) ต่อมาในปีค.ศ. 1966 ได้มีการเข้าร่วมกันกับบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (Nissan Motor CO.LTD) และทำให้เจ้ารถสปอร์ต 2 ประตูยอดนิยมในตระกูล สกายไลน์ (Skyline) ของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัดได้มีประวัติอันยาวนานกว่า 50 ปีเลยทีเดียว และมีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 12 โฉม (12 Generation) โดยเริ่มจากโฉมล่าสุดก่อนเลย
โฉมที่ 12 (Generation12) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 2006-ปัจจุบัน
โฉมที่ 12 นี้ใช้ชื่อว่า V36 ที่เป็นรถครอบครัว มีตัวถังให้เลือกคือ 4 ประตู, 2 ประตู คูเป้, 2 ประตู เปิดประทุน, 5 ประตู SUV ที่ผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1979 ในชื่อนิสสัน สกายไลน์ครอส โอเวอร์ (Nissan Skylinecoss Over) มีเครื่องยนต์ให้เลือกขนาด 2.5 ลิตร, 3.5 ลิตร และ 3.7 ลิตรV6 ระบบเกียร์มีให้เลือกใช้แบบ 5, 7 สปีดออโตเมติก และ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด สำหรับโฉมนี้ในอเมริกาใช้ชื่อว่า อินฟินิติ (Infiniti) G35, G37 ส่วนในตัวโฉมที่เป็น นิสสัน สกายไลน์ครอส โอเวอร์ในประเทศอเมริกาใช้ชื่อว่า Infiniti EX
โฉมที่ 11 (Generation11) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 2001-2007
ในโฉมนี้มีชื่อว่า V35 ในโฉมนี้เองมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ สกายไลน์ (Skyline) หลังจากทางบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด ได้ตัดสินใจให้นิสสัน สกายไลน์ GT-R แยกออกไปเป็นรถรุ่นใหม่ ของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (Nissan Motor CO.LTD) คือ นิสสัน จีที-อาร์ (Nissan GT-R) และไม่ขึ้นตรงกับชื่อ สกายไลน์ อีกต่อไป ทำให้ในโฉมที่ 11 นี้ได้กลับมาเป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่อีกครั้ง
ในโฉมนี้ ยังมีระบบเกียร์ CVT (Continuously Variable Transmission) เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติที่ซอยเป็นหลายสปีด เพื่อให้มีความต่างในอัตราทดเกียร์ของแต่ละเกียร์น้อยลง ทำให้ในการเปลี่ยนเกียร์มีความนิ่มนวลกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป
และมันมีคุณภาพที่สูงมาก จนได้รับฉายาว่า The best Skyline ever หรือ สกายไลน์ที่ดีที่สุด ในทั้งหมด 11 โฉมที่ผ่านมา
โฉมที่ 10 (Generation10) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1998-2002
ในโฉมนี้มีชื่อว่า R34 และมีรถ 2 เกรดที่สำคัญคือ 1. Nissan Skyline GT-S R34 เครื่องยนต์รหัส RB 25 DET Neo 6 เกียร์อัตโนมัติ 2. Nissan Skyline GT-R R34 เครื่องยนต์รหัส RB 26 DETT
สำหรับในโฉมนี้ ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีดได้ถูกยกเลิกไปชั่วคราวจึงทำให้ สกายไลน์ (Skyline) ในโฉมนี้มีระบบเกียร์แบบธรรมดา 6 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ทั้งยังมีการผลิตเกียร์แบบ Triptonic ออกมาวางจำหน่ายอีกด้วย (เกียร์ Triptonic คือ เกียร์ที่สามารถปรับใช้เป็นเกียร์ธรรมดาก็ได้ และเป็นเกียร์อัตโนมัติก็ได้ ในชุดเกียร์เดียวกัน)
โฉมที่ 9 (Generation9) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1993-1998
ในโฉมนี้มีชื่อว่า R33 มี 2 รุ่นสำคัญคือ 1. Nissan Skyline GT-S R33 เครื่องยนต์รหัส RB 25 DETT 2. Nissan Skyline GT-R R33 เครื่อยนต์รหัส RB 26 DETT ขนาด 2,568 ซีซี
โฉมที่ 8 (Generation8) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1989-1994
ในโฉมนี้ มีการกลับมาผลิต สกายไลน์ จีที-อาร์ (Skyline GT-R) หลังจากหายไปตั้งแต่โฉมที่ 4 และเป็นโฉมที่ทำให้ สกายไลน์ จีที-อาร์ (Skyline GT-R) เป็นที่รู้จักและโด่งดังในวงกว้าง จากการที่นำเจ้า Skyline R32 ไปลงแข่งขันในญี่ปุ่นทั้งยังได้รางวัลถึง 29 รางวัล และชนะเลิศจากการแข่งขัน เจทีซี (JTC) ถึง 4 ปีซ้อน พร้อมทั้งยังได้ชัยชนะจากการแข่งขัน ออสเตรเลียนทัวริง 3 ปีซ้อนในระหว่างปีค.ศ. 1990-1992
โฉมที่ 7 (Generation7) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1985-1989
โฉมที่ 7 มีชื่อว่า R31 ในโฉมนี้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใส่ในโฉมนี้และมีรูปทรงที่ทันสมัยกว่าโฉมที่ 6 และเป็นรุ่นแรกที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ในรหัส RB และเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในฐานะรถสปอร์ต
โฉมที่ 6 (Generation6) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1981-1985
โฉมที่ 6 มีชื่อว่า R30 เป็นโฉมเดียวที่มีการทำบอดี้แบบ Hatchback 5 ประตู ในโฉมนี้ได้มีการผลิตรุ่นพิเศษออกมาด้วยนั่นคือรุ่น พอล นิวแมน เวอร์ชั่น (Paul Newman Version) เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาเป็นที่ระลึกความสัมพันธ์ให้กับบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กับ พอล นิวแมน (Paul Newman) ผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังในยุคนั้น เพราะพอล นิวแมน (Paul Newman) มีส่วนในการส่งเสริมการขายของนิสสันมานาน รถนิสสัน สกายไลน์ (Skyline) รุ่น นิวแมน (Newman) นี้จะมีลายเซ็นของนิวแมน (Newman) บนฝากระโปรงหน้ารถ และยังเป็นรถที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลกในปัจจุบัน
โฉมที่ 5 (Generation5) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1977-1981
ในโฉมนี้มีชื่อว่า C210 มีหน้ารถที่ยาวขึ้น เครื่องยนต์แบบ 6 สูบ และยังมีการผลิตรุ่น GT-EX และยังเป็นรุ่นแรกของสกายไลน์ (Skyline) ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบ มาวางลงในบอดี้นี้
โฉมที่ 4 (Generation4) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1972-1977
ในโฉมนี้มีชื่อว่า C110 ซึ่งในบางประเทศ จะรู้จักกันในชื่อ ดัตสัน เค-ซีรีส์ (Datsun K-series) ทั้งยังมีตัว GT-R วางจำหน่ายด้วย
โฉมที่ 3 (Generation3) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1968-1972
ในโฉมนี้ใช้ชื่อว่า C10 มีการผลิตรุ่น GT-R และ GT-X ออกมาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก เครื่องยนต์ที่ใช้มีขนาด 1,958 ซีซี แบบสปอร์ต จึงทำให้สกายไลน์ (Skyline) ได้เป็นที่รู้จักในฐานะรถสปอร์ตแทนรถครอบครัวระดับหรูเหมือนโฉมก่อน แต่ในแบบรถสปอร์ตนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากในช่วงนั้น
โฉมที่ 2 (Generation2) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1963-1968
นิสสัน สกายไลน์ (Nissan Skyline) ในช่วงนั้นยังมีการผลิตในภายใต้แบรนด์ พรินซ์มอเตอร์ (Prince Motor) และใช้ชื่อว่า Prince Skyline ในโฉมนี้ใช้ชื่อว่า S10 ต่อมาในปีค.ศ. 1964 ได้มีการออกรุ่นสปอร์ต ใช้ชื่อว่า S54 ได้รับความนิยมในระดับที่ใกล้เคียงกับรถ ปอร์เช่ 904 (Porsche 904) มาถึงในปีค.ศ. 1967 มีการเปลี่ยน ไมเนอร์เชนจ์ (Minor Change) ใช้ชื่อว่า S57 ในช่วงยุคนี้ทางบริษัท พรินซ์มอเตอร์ จำกัด ได้มีเข้าร่วมผลิตกับทางบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัดทั้งยังเป็นรุ่นแรกที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ของทางบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัดเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,487 ซีซี มีแรงม้าสูงสุด 88 แรงม้า และเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซีที่แรงที่สุดในรถญี่ปุ่นอีกด้วย
โฉมที่ 1 (Generation1) มีการผลิตขึ้นในปีค.ศ. 1957-1963
ในโฉมนี้มีการเปิดครั้งแรกในปีค.ศ. 1957 ที่มีการผลิตในแบรนด์ Prince Skyline ด้วยชื่อโฉมว่า ALSI-1 ที่ใช้เครื่องยนต์ GA-30 ขนาด 1,482 ซีซี มีแรงม้าสูงสุด 60 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที มี 2 บอดี้
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook