ฟิล์มกรองแสงมีประโยชน์อย่างไร มีกี่ประเภท ราคาเท่าไหร่ รู้ไม่ยาก
ตอนนี้โลกเราได้ร้อนขึ้นทุกวัน คนเราก็โดนรังสีต่างๆ มากมาย แม้แต่อยู่ในรถก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มนุษย์จึงได้คิดค้นวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราป้องกันรังสี และความร้อนพวกนี้ขึ้นมา ซึ่งได้รับความนิยมจากคนใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก โดยวันนี้เราจะนำความรู้เกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงที่ใช้ติดรถมาอธิบายให้ทุกท่านเข้าใจ ว่าควรจะเลือกฟิล์มติดรถแบบไหน แล้วแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ราคาเท่าไหร่กันนะครับ
ฟิล์มกรองแสงนั้นเป็นวัสดุที่โปร่งแสง แต่ช่วยลดความร้อน ลดรังสีอินฟราเรด และรังสีอัลตร้าไวโอเลตที่เข้ามากระทบ ทำให้ช่วยลดความร้อนภายในรถ เมื่อต้องจอดอยู่กลางแสงแดด ซึ่งฟิล์มที่ว่านี้สามารถแบ่งได้หลายประเภท
แบบไม่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแดด คือ ฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการกรองแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาให้อ่อนลง แต่จะไม่สามารถป้องกันอันตรายจากพวกรังสีต่างๆ ที่มากับแสงแดดได้ รวมถึงสามารถกันความร้อนได้ไม่เกิน 50% เท่านั้น โดยอายุการใช้งานของฟิล์มประเภทนี้จะอยู่ที่ 3-5 ปี ส่วนราคาจะอยู่ที่ 800-1,500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมาก
แบบมีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแดด คือ ฟิล์มที่จะเพิ่มวัสดุพิเศษเข้าไปในเนื้อฟิล์ม เพื่อให้ป้องกันรังสีต่างๆ และความร้อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งเป็นประเภทย่อยๆ ได้อีก 4 ประเภท
ฟิล์มกรองแสงในบ้านเรานั้น ส่วนมากจะเรียกกันติดปากว่าฟิล์มนี้กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโดยมากจะมี 40, 60และ80 ที่ใช้ติดรถในปัจจุบัน ซึ่งสามารถอธิบายคำว่าเปอร์เซ็นต์เหล่านี้ได้ว่า
การติดฟิล์มกรองแสงของรถยนต์นั้น ก็ถือว่าเป็นการแต่งรถชนิดหนึ่ง ซึ่งประเทศไทยได้มีกฏหมายข้อบังคับเกี่ยวกับการติดฟิล์มออกมา โดยสามารถติดฟิล์มที่กระจกหน้า และหลังได้ แต่ไม่สามารถติดฟิล์มที่มีความเข็มเกิน 40% ส่วนกระจกข้างไม่สามารถติดฟิล์มที่มีความเข้มเกิน 60% โดยที่ออกกฏหมายฉบับมีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน กฏหมายจึงมีการผ่อนผันให้ แต่ก็ไม่ใช่จะติดฟิล์มให้ทึบทุกบานจนไม่สามารถขับขี่ได้
ฟิล์มกรองแสงเป็นวัสดุชิ้นหนึ่งที่ถือว่ามีความสำคัญกับรถมาก เพราะถ้าติดฟิล์มที่ดีมีคุณภาพ ผู้ขับขี่ก็จะขับได้อย่างปลอดภัย และมีความสุข แต่ถ้าติดฟิล์มที่เข้มไป หรือไม่มีคุณภาพ ก็อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ในบ้านเรานั้นก็มีหลากหลายยี่ห้อ อาทิ Lamina (ลามีน่า), 3M (3เอ็ม), Hi-Kool (ไฮคูล) และXtra-cole (เอ็กตร้าคูล) เป็นต้น ให้ท่านได้เลือกกันอย่างจุใจ แต่ก่อนจะเลือกฟิล์มประเภทไหน ยี่ห้ออะไร ก็ควรจะตรวจสอบให้ดีก่อนนะครับ ว่าท่านใช้รถเวลาไหนมากที่สุด และท่านต้องการแบบไหนมากที่สุด คราวหน้าเราจะนำความรู้อะไรมานำเสนออีก ติดตามได้ที่ boxzaracing.com ครับ