HONDA JAZZ

ประวัติความเป็นมาของ Honda Jazz

          ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) หรือที่ในต่างประเทศจะใช้ชื่อว่า Honda Fit นี้มันเป็นรถยนต์นั่งประเภทแฮทช์แบค (Hatchback) 5 ประตู โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2001 ซึ่งเมื่อทำการเปิดตัวออกมานั้นมันก็สามารถสร้างกระแสได้เป็นอย่างมากสังเกตุได้จากเหล่าบรรดารถยนต์ที่วิ่งกันอย่างมากมายบนท้องถนน แถมมันยังมียอดขายถึง 2 ล้านคันในเวลาเพียง 6 ปีเพียงเท่านั้น และยังแบ่งออกเป็น 3 โฉม (3 Generation) โดยเริ่มจากรุ่นล่าสุดก่อนเลย

คลิบทดสอบความปลอดภัยของ ฮอนด้า แจ๊ส

Honda Jazz โฉมที่3

 โฉมที่3 (Generation3) 

           เจเนอร์ชั่นที่ 3 ทาง ฮอนด้า (Honda) ได้ทำการผลิตออกมาเมื่อปี 2013 สำหรับเจ้า ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) โฉมนี้ยังคงเน้นการออกแบบให้เป็นรถแฮทช์แบค (hatchback) 5 ประตูเหมือนเดิม แต่ได้ทำการขยายขนาดของตัวรถนั้นให้มีความใหญ่โตโอ่อ่า มากขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ส่วนทางด้านของขุมพลังนั้นเช่นเคย คือจะใช้เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร VTEC ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติยอดอัจฉริยะอย่าง CVT SEMI A/T 7 Speed  

---------------------------------------------------------

Honda Jazz โฉมที่2

 โฉมที่2 (Generation2)

          มาถึงในเจเนอร์เรชั่นที่ 2 นี้มันได้ถูกผลิตขึ้นมาเมื่อปี 2007 โดยการออกแบบนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นเก่าแต่จะมีเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยวที่มากกว่าเดิม ส่วนในด้านของเครื่องยนต์นั้นยังคงใช้เครื่องยนต์รหัสเดิมคือ L15A ที่มีขนาดความจุ 1,500 ซีซี. และล่าสุดยังมีการออกรุ่น ไฮบริด เพื่อที่จะให้เป็นอีกพลังงานทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ที่ชื่นชอบในรูปลักษณ์ของเจ้ารถรุ่นนี้

          เจเนอเรชันที่ 2 ของ Jazz ยังคงถูกพัฒนาขึ้น บนพื้นตัวถัง GLOBAL SMALL PLATFORM ซึ่งเป็นพื้นฐานให้กับรถยนต์ขนาดกระทัดรัดรุ่นใหม่ๆ ในโครงการที่ชื่อ SMALL MAX ตลอดช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา โดยยังคงวางตำแหน่งถังน้ำมัน ไว้ตรงกลางตัวรถ ใต้
เบาะคู่หน้าเหมือนเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมแล้ว จะยาวขึ้นกว่าเดิม 3,830 เป็น 3,900 มิลลิเมตร  กว้างขึ้นจาก 1,675 เป็น 1,695 มิลลิเมตร สูงเท่ารุ่นเดิม 1,525 - 1,550 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อยาวขึ้นจากเดิม 2,450 เป็น 2,500 มิลลิเมตร แต่ห้องโดยสาร ยังคงมีความยาวเท่ากับรถรุ่นเดิม

          แต่คราวนี้ เห็นได้ชัดว่า ความสำเร็จของรถรุ่นเดิม มีส่วนทำให้รุ่นใหม่  ไม่อาจฉีกหนีจากแนวทางเดิมได้มากนัก จึงไม่น่าแปลกใจที่เส้นสายตัวถังยังคงไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากเท่าที่ควร ทีมออกแบบใช้วิธี เพิ่มแนวเส้นเหลี่ยมสัน ให้ตัวรถดูเฉียบคม
ขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะด้านหน้ารถ แถม ฮอนด้า ยังขยายความยาวของเสาหลังคาคู่หน้า A-PILLAR ให้ยื่นล้ำขึ้นมาข้างหน้าอีกในสไตล์ SUPER FORWARDING CABIN FORM เน้นช่วงหน้ารถที่สั้นยิ่งกว่าเดิมทำให้กระจกหูช้าง ที่คั่นกลางระหว่างเสาหลังคาคู่หน้าและประตูคู่หน้า ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อหวังเพิ่มทัศนวิสัยด้านหน้า ให้ดีขึ้น 30% จากการคำนวนของฮอนด้าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน

---------------------------------------------------

Honda Jazz โฉมที่1

โฉมที่1 (Generation1)

         สำหรับเจ้า ฮอนด้า แจ๊ส (Honda Jazz) เจเนอร์เรชั่นที่ 1 นี้มันถูกผลิตออกมาจำหน่ายเมื่อปี 2001-2008 ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดเล็กหรือ (Subcompact Car, Supermini) ในการออกแบบนั้นจะเน้นในการใช้งานในเมืองซะเป็นส่วนใหญ่ โดยสังเกตุได้จากรูปลักษณ์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ไฟหน้าและไฟท้ายดวงโตเพื่อประโยขน์ในการส่องสว่างเต็มที่ ส่วนในเรื่องของขุมพลังนั้นสำหรับในบ้านเรามีอยู่ 2 ตัวด้วยกันคือ ขนาด 1.5 ลิตร I-DSI และขนาด 1.5 ลิตร V-TEC และที่สำคัญคือเจ้ารถรุ่นนี้มันได้โค่นล้มสถิติรถที่มียอดขายสูงสุดอย่าง โตโยต้า โคโรลล่า(Toyota Corolla) ได้อีกด้วย

          ถ้าพูดในเรื่องของความสำเร็จ Honda Jazz โฉมแรก ทำให้เรานึกถึง ฮอนด้า ในตลาด Subcompact Car ในช่วงทศวรรษ 1980 ที่เคยประสบความสำเร็จถึงขีดสุดในทันทีที่ เปิดตัว Honda City Hatchback 3 ประตู รุ่นแรก (คนละตระกูลกับ ฮอนด้า ซิตี้ ในบ้านเรา) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1981 และเพียงแค่ 2 เดือนแรกเท่านั้น Jazz ก็สามารถทำยอดขายได้ร้อนแรงทันที ในระดับ 20,000 คัน ก่อนที่จะพุ่งพรวดพราดขึ้นไปถึงระดับ 120,000 คัน ในปี 1982 แซงหน้าคู่แข่งทั้ง Toyota Starlet และ Nissan March จนขาดลอย หลังจากนั้น ก็มีรุ่นแปลกๆ ตามมา ทั้งรุ่น Turbo-II ไปจนถึงรุ่นเปิดประทุน Cabriolet อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ตัวเลขยอดขาย จะค่อยๆ เริ่มลดลงเรื่อยๆ ตามอายุตลาด ที่ยิ่งนาน รถก็ยิ่งถูกผู้คนมองอย่างเบื่อขี้หน้า แล้วคิดว่า เมื่อไหร่รุ่นใหม่จะออกมาซะที

          ขณะเดียวกัน Honda City ในรุ่นที่ 2 ก็ค่อยๆ คลานตามออกมาในปี 1986 ด้วยการพลิกแนวทางจากเดิมด้วยการสร้างตัวรถให้แบนและเตี้ยลง มองสู่เทรนด์อนาคตในยุค 1990 แต่ทำตัวเลขสมรรถนะออกมา ได้ไม่ดีเท่ากับคู่แข่ง ทำให้ตัวเลขยอดขายเริ่มมีแต่ทรงกับทรุด และต้องถอนออกจากตลาดไป

          หลังจากนั้น ฮอนด้า ก็ตัดสินใจ หวนกลับมาหยั่งเชิงตลาดกลุ่มนี้อีกครังในปี 1996 ด้วยการเปิดตัว แฮทช์แบครุ่นโลโก (Logo) ทั้ง 3 และ 5 ประตู แม้จะมีหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมจืดชืด เหมือนกับเป็น Stalet Reflet copycat และไมได้ประสบความสำเร็จด้านยอดขายมากนัก แม้จะส่งไปขายในยุโรปบางประเทศด้วยก็ตาม แต่ คุณงามความดีข้อหนึ่งของ Logo คือ เป็นรถยนต์ที่ช่วยให้ ฮอนด้า เก็บข้อมูลความต้องการของผู้บริโภค ที่มองหาความคุ้มค่า จากรถยนต์ในตลาดกลุ่มนี้ในช่วงรอยต่อศตวรรษมาได้เหลือเฟือ จน Honda สามารถกลับมาสร้างปาฏิหารย์ ได้อีกครั้งกับ Honda Jazz รุ่นแรก ในที่สุด

          จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับประวัติความเป็นมาของสุดยอดรถยนต์นั่งแฮทแบคช์แบค 4 ประตูจากค่าย ฮอนด้า อย่าง แจ๊ส สุดท้ายนี้ถ้าหากที่อยากจะรับรู้ข่าวสาร หรือความเป็นมา และสาระน่ารู้ต่างๆ ของรถยนต์แล้วล่ะก็ สามารถเข้ามาติดตามชมกันได้ในเว็ปไซต์ Boxzaracing.com ของเราได้เลยนะครับ ส่วนในครั้งหน้าทางทีมงานของเราจะนำประวัติของรถรุ่นใดมานำเสนอ คอยติดตามกันได้ในครั้งต่อไปครับ