HONDA BRIO

ALL ABOUT : HONDA BRIO

 

Honda Brio 

          รถประหยัดน้ำมัน จาก ฮอนด้า (Honda) นี้มันได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 2013 ด้วยการ ออกแบบที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัยด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน จึงทำให้มันเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในเมืองหลวงที่มีการจราจรคับคั่งแบบนี้ สำหรับในด้านของพลังงานการขับเคลื่อนนั้นมันมีเครื่องยนต์ถึง 2 ตัวด้วยกันคือ ขนาด 1.2 ลิตร i-VTEC และ 1.5 ลิตร i-VTEC แต่สำหรับ Honda Brio ในประเทศไทยมีแค่เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่วางจำหน่ายเท่านั้น

 

Honda Brio โฉมแฮทช์แบค 5 ประตู

 

 รีวิวประกอบ ฮอนด้า บรีโอ้

 

คุณสมบัติในเรื่องของความประหยัดน้ำมันของ ฮอนด้า

          ในเรื่องของความประหยัดนั้น ฮอนด้า บรีโอ้ (Honda Brio) ได้มีการคำนวณวิเคราะห์มาอย่างดีด้วยอัตราการกินน้ำมันไม่เกิน 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อลิตร แถมยังรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยปริมาณก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากระบบท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร มาตรฐาน UNECEReg.94 ( 01) และ UNECEReg.95 (02)

          สำหรับในฮอนด้า บรีโอ้ (Honda Brio) เครื่องยนต์ที่ใช้วางในบอดี้นี้เป็นเครื่องยนต์รหัส L12B SOHC i-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที

Honda Brio มีให้เลือกใช้ด้วยกัน 3 รุ่น

          พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เบรกเอบีเอส (Brake ABS) ถุงลมคู่หน้า สปอยเลอร์หลัง เบาะหลังพับได้เหมือนแจ๊ส (Jazz)  เกียร์ระบบ CVT อุปกรณ์มาตราฐาน

  • รุ่น S  MT : เกียร์ธรรมดา กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีดำ ล้อกระทะ+ฝาครอบขอบ14 กระจกไฟฟ้าคู่หน้า กระจกมองข้างปรับมือ กุญแจอิมโม แต่โนกันขโมย และเซ็นทรัลล็อค
  • รุ่น V  MT : เกียร์ธรรมดา กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ ล้อแม็กขอบ14 นิ้ว กระจกไฟฟ้า 4 บาน กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า กุญแจอิมโม+กันขโมย และเซ็นทรัลล็อค
  • รุ่น V  AT : เหมือน MT แต่เป็นเกียร์ออโต้ระบบ CVT

 

           หัวหน้าทีมพัฒนาของ Honda Brio ได้เผยว่า เมื่อปี 1996 ที่ผ่านมาทาง Honda ได้เปิดตัว Honda City โฉม Sedan ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกและยังเป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากตลอดเวลาที่ผ่านมา ตลาดยานยนต์ในภูมิภาคเอเซียยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ 15 ปีผ่านไป และยิ่งไปกว่านั้นในมุมมองของผู้ใช้งาน ทีมีบทบาทการใช้ยานพาหนะในชีวิตก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย

           เมื่อเข้าสู่ยุคที่มีการแข่งขันด้านยนตกรรม Honda ได้ตัดสินใจถึงความพร้อมที่พวกเขาจะกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และจับตามองตลาดรถยนต์ในภูมิภาคเอเซียด้วยมุมมองใหม่ เพื่อสร้างรถยนต์ที่มีขนาดเล็กยุคใหม่ เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนเมืองที่เต็มไปด้วยปัญหารถติด หรือแม้แต่การหาที่จอดรถในเมืองที่ยากขึ้นนั่นเอง

           เริ่มจากทางฮอนด้า ได้เข้าไปศึกษาตลาดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ ซึ่งจะอยู่ในแถบภูมิภาคเอเซีย โดยใช้วิธีการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก เพื่อจะเป็นการรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจนรวมทั้งประสบการณ์ต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะทำให้เห็นได้ชัดเจนถึงความต้องการของลูกค้า และสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังในรถยนต์ขนาดเล็ก ทางฮอนด้าได้นำมากำหนดเป็นแนวทางของโครงการพัฒนารถรุ่นใหม่ในอนาคต

            และจากการรวบรวมเทคโนโลยีของ Honda รวมทั้งประสบการณ์ที่มีต่อการพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็ก เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง Honda Brio จะผสมผสานการออกแบบ ที่ล้ำสมัย และมีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น เข้ากับการออกแบบภายในที่โปร่งสบายไว้ด้วยกัน

             นอกจากนี้ หัวหน้าทีมพัฒนา Honda Brio ยังเผยอีกว่าเมื่อได้ไปศึกษาถึงตลาดกลุ่มเป้าหมาย เพื่อดูสภาพแวดล้อมการใช้งาน การจราจร และได้พูดคุย กับผู้คนทั่วไปว่ารถยนต์มีบทบาทต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเขาอย่างไรบ้าง ซึ่งก็สรุปได้ว่าสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงกันมาก ต่อความต้องการในรถยนต์ มีอยู่เพียง 3 ข้อหลักเท่านั้น ซึ่งได้กลายมาเป็นแนวคิดในการพัฒนา Honda Brio นั่นคือ รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ห้องโดยสารที่โปร่งสบาย และที่สำคัญประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

             เมื่อเห็นถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้า Honda จึงได้เตรียมที่จะพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่นใหม่ ที่จะสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางในเมืองใหญ่ โดยจะเน้นที่การประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

             Honda ได้เริ่มพัฒนา Brio ใหม่ มีรหัสโครงการ 2CV โดยใช้ Platform ของ Honda Jazz แต่ได้เปลี่ยนแปลงขนาดความยาวของตัวถังให้สั้นลงใน Honda Brio เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่บนท้องถนน  ต่อจากนั้นจึงพัฒนาทุกสัดส่วนของตัวรถ Honda Brio ให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางต่อผู้ใช้งานมากขึ้น

             สำหรับแนวทางการออกแบบ Brio นี้เรียกได้ว่า Honda ได้ยึดถือ Man Maximum , Machine Minimum มาตั้งแต่เริ่มต้น โดยการออกแบบ Honda Civic รุ่นแรก ออกสู่ตลาดโลกเมื่อปี 1972 ซึ่งนับได้ว่าเป็นตัวอย่างการออกแบบที่สมบูรณ์ในยุคนั้นเลยทีเดียว ขณะเดียวกันรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กจากญี่ปุ่นในยุคนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นรถโฉม Sedan โดยมีทั้งแบบ 2 และ 4 ประตู Honda เลือกที่จะออกแบบ Civic รุ่นแรก ให้เป็นแบบ Two-Box , One Motion wedge หรือ รถทรง 2 กล่อง ด้านหน้าเส้นสายแนวลิ่ม ซึ่งแนวนี้เป็นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในญี่ปุ่น เมื่ออกสู่ตลาดแล้ว ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง จนกลายเป็นมาตรฐานของรถยนต์ขนาดเล็กของ Honda ในกาลต่อมา 

               ในส่วนของการออกแบบ Honda Brio ได้ใช้แนวคิดแบบ Micro Metropolitan Jet ถ้าแปลเป็นภาษาไทยแล้วอาจจะฟังดูแปลกๆ ไปสักหน่อยหรือว่า Honda กำลังคิดจะเอาบุคลิกของเครื่องบิน Jet มาใช้ในการออกแบบ 

                ขณะที่สภาพการเติมโตในเมืองใหญ่ก็เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งการจราจรบนท้องถนนด้วยแล้ว การเดินทางในเมือง คุณจึงต้องการความคล่องแคล่ว และว่องไวเป็นอย่างมาก ในการบังคับเลี้ยว อัตราเร่งที่ต้องเหมาะสมกับการใช้งาน อีกทั้งต้องมีห้องโดยสารที่โปร่งสบายที่สุด

                 และอีกเอกลักษณ์ที่มีความสำคัญของในการออกแบบ Honda Brio คือ การจัดวาง หรือที่เรียกว่า Packaging ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้พื้นที่ห้องโดยสารซึ่งดูจากภายนอกตัวรถ เหมือนจะมีขนาดเล็ก แต่จริงแล้วภายในสามารถสัมผัสได้ถึงความใหญ่โต กว้างสบายเมื่อได้เข้าไปนั่งภายในตัวรถยนต์ของ Honda Brio เพื่อเป็นการลดขนาดตัวรถให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีการลดพื้นตัวรถ เฉพาะในส่วนที่ไม่จำเป็นกับการใช้งาน อีกทั้งยังมีการลดความหนาของแผงประตูทั้งสี่ด้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่การโดยสารให้มากที่สุด


               ในส่วนของแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง รวมถึงบริเวณพนักพิงเบาะหลัง ดีไซน์ให้มีลักษณะเว้าโค้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางขาของผู้โดยสารทุกตำแหน่ง นอกจากนี้อุปกรณ์ด้านความบันเทิง บนแผงหน้าปัดและภายในห้องโดยสาร ออกแบบมาคำนึงถึงสะดวกต่อการใช้งาน ถูกหลักสรีรศาสตร์

honda brio concept car
 

            สำหรับรถต้นแบบเมื่อต้องผลิตออกสู่ตลาด เส้นสายความสวยงาม ความลงตัวหลายๆ อย่าง อาจจะต้องถูกลดทอนลงไป ด้วยเหตุผลหลายด้านด้วยกัน อย่างเช่นการผลิต ต้นทุน การยอมรับของผู้บริโภค และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทาง Honda ก็เผยโฉม เวอร์ชัน ที่จะดูใกล้เคียงรุ่นจำหน่ายจริงมากที่สุด นั่นคือ Honda Brio Prototype เผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลก ในงาน Motor Expo เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2010 

             และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของคำว่า Honda Brio ที่พวกเขาเปิดตัวรถคันนี้ ด้วยชื่ออย่างเป็นทางการว่า Brio เหตุผลว่าทำไมถึงเลือกใช้ชื่อว่า Brio ให้กับรถคันนี้ เพราะมันเป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส มีความหมายถึงความ "ปราดเปรียว ชาญฉลาด และทันยุคสมัย" เป็นคำที่ Honda ตั้งใจใช้สื่อถึงบุคลิกของ รถคันใหม่รุ่นนี้

Honda Brio ภายใน
 

             หลังจากที่เปิดตัว Honda Brio การตอบสนองของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ออกมาในเชิงลบมากกว่าบวก ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ตำหนิที่งานออกแบบบั้นท้ายของรถที่ค่อนข้าง
สั้นไปหน่อย และการใช้สีเขียว ที่ดูแล้ว หมือนสีโปรโมทของค่ายคู่แข่งอย่าง Mazda 2 hatchback ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านั้น 1 ปี

              สำหรับในเรื่องของการตลาด เป็นอะไรที่พูดลำยาก เพราะต้องมีการเตรียมศึกษา และวิจัยแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นด้านรสนิยม ซึ่งกรณีของ Honda Brio เอง ก็เช่นกัน เหตุผลที่เลือกใช้สีเขียว ก็เพื่อสื่อถึงความสดใส สดใหม่ มีชีวิตชีวา เพียงแต่ว่า โทนสีที่ใช้ในตอนแรกนั้น ดันไปเหมือนกับ Mazda 2 จนในที่สุด ต้องเปลี่ยนโทนสี ให้เขียวแนวมะนาว เป็น Fresh Lime อย่างที่เห็น ในเวอร์ชันจำหน่ายจริง อย่างทุกวันนี้

              เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับการทำตลาดจริง Honda ก็ต้องมาประสบปัญหาใหญ่กับเหตุที่ไม่มีใครคาดฝัน และไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด และตามด้วยคลื่นสึนามิ ถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายอย่างหนัก เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2011 ที่ผ่านมา ก่อนที่งาน เปิดตัวรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดของ Honda จะถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยเพียงแค่ 7 วันเท่านั้น

               อย่างไรก็ตามผลกระทบที่เกิดขึ้น Honda ค่อนข้างโดนหนักกว่าผู้ผลิตรถยนต์ร่วมชาติรายอื่นๆ เพราะเขตภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอยู่ใกล้กับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาของทาง Honda R&D ที่ Utsunomiya ในจังหวัด Tochigi ซึ่งแรงสั่นสะเทือนครั้งนั้น สร้างความเสียหายมากมาย และยังทำให้ฝ้าเพดานห้องอาหาร Canteen ของศูนย์ฯ ถล่มลงมาทับวิศวกร ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกับ หนึ่งในทีมออกแบบ Brio เสียชีวิต 1 ราย นอกจากนี้ความเสียหายยังรวมไปถึงบริษัทซัพพลายเออร์ ต่างๆ ของ Honda อีกด้วย

               Atsushi Fujimoto ผู้บริหาร Honda automobile Thailand มองว่า ถึงบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นจะเจ็บปวดกับเหตุการณ์นี้มามากขนาดไหน แต่ทาง Honda ยังต้องดำเนินกิจกรรมต่างๆ ต่อเนื่องไปตามปกติ เพื่อให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นญี่ปุ่น จะอดทนต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคครั้งใหญ่นี้ไปให้ได้อย่างดีที่สุด ดังนั้นจึงตัดสินใจร่วมกันกับทีมผู้บริหารของ Honda เดินหน้า เปิดตัว Honda Brio เป็นครั้งแรกในโลก ที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2011 ที่ผ่านมา ณ Royal Paragon Hall @ Siam Paragon ประเทศไทย

               Honda Brio ได้เปิดตัวที่ประเทศไทย แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญ 2 ข้อใหญ่ คือ เปิดตัวรถแล้วกลับไม่สามารถอาจส่งมอบให้ลูกค้าได้ เพราะทางฮอนด้ามีปัญหาชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้อง ส่งมาไม่พอ หรือไม่ได้รับเลย เหตุนี้ต้องทำให้ทุกอย่าง ก็ดูเหมือนจะชะงักงันไปหมด จนเพิ่งจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว และเริ่มส่งมอบรถกันได้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมากันนี่เอง

               แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอีก จากการรับรู้ของผู้บริโภคของลูกค้า ที่มีเสียงตอบรับในแง่ลบซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเห็นได้จากยอดสั่งจอง Honda Brio ในงาน Bangkok International Motor Show ที่ประเทศไทย ซึ่งสรุปตัวเลขยอดสั่งจองในงานตลอด 12 วัน มียอดสั่งจอง Honda Brio เพียงแค่ 1,190 คัน เท่านั้น ถือได้ว่าต่ำกว่าความคาดหมายไปมาก เพราะทาง Honda ตั้งความหวังเอาไว้ว่า Brio น่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วประเทศ เทียบเท่าระดับเดียวกันกับ Honda Civic 3 ประตู เคยทำเอาไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 1993 (ครั้งนั้น ยอดจองทุบทำลายสถิติของวงการรถยนต์เมืองไทย 3 วัน 9,000 คัน!) กลับกลายเป็นว่า Nissan March รถเล็ก จากค่ายมวยรอง แถมยังออกสู่ตลาดล่วงหน้า Brio ถึง 1 ปีเต็ม ก็ยังเก็บยอดจองไปได้มากกว่ากันชัดเจน ด้วยตัวเลข 2,044 คัน สะท้อนให้เห็นแนวโน้มบางอย่าง ที่ส่อเค้าลางว่า อาการน่าเป็นห่วง

              และนี่ก็คือสรุปเรื่องราวความเป็นมาของ Honda Brio ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสถานการณ์ด้านการตลาดหลังเปิดตัว และปัญหาต่างๆ ที่กว่าจะมาเป็น Brio รถยนต์นั่งขนาดเล็กคันนี้

เขียนโดย: ART 4G
เมื่อ: 25 กรกฏาคม 2557 - 18:24

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

เครื่องยนต์ยอดนิยมล่าสุด